Hans Zimmer feat. Rodrigo y Gabriela – Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides

“Another decent score for POTC franchise, somewhere between the 1st & 2nd but not as good as the 3rd. However, I’m not really happy with this release due to too many useless remixes to bear and, therefore,a few original materials to hear!”

เหมือนจะจบแต่ก็ไม่จบจริงๆสำหรับหนังโจรสลัดฟอร์มยักษ์ของ Disney ที่สุดท้ายก็เขียนเรื่องเขียนราวออกมาเป็นภาคที่ 4 ในชื่อ On Stranger Tides กับการผจญภัยครั้งใหม่ที่นำโดยกัปตัน Jack Sparrow เพื่อตามหาน้ำพุแห่งความเยาว์วัยซึ่งถูกกล่าวถึงลอยๆในตอนจบภาคสามนั่นเอง

แม้จะเปลี่ยนผู้กำกับจาก Gore Verbinski เป็น Rob Marshall และเปลี่ยนนักแสดงนำบางคนไปจนเหลือเค้าโครงเดิมเพียง Johnny Depp และ Geoffrey Rush แต่ในส่วนของดนตรีประกอบนั้นยังคงอยู่ในการสร้างสรรค์ของคอมโพเซอร์ Hans Zimmer ที่คราวนี้ได้สรรหาซาวด์ใหม่ๆเป็นเสียงของ ฟลาเมงโก้ หรือ กีตาร์สเปน ซึ่งเล่นโดยคู่ดูโอชาวเม็กซิกัน Rodrigo y Gabriela

แล้วทำไมถึงต้องกีตาร์สเปน? คำตอบอันแสนจะง่ายนี้ คือ Penelope Cruz ผู้รับบท Angelica โจรสลัดเลือดละตินและลูกสาวของ Blackbeard ซึ่งเป็นโจทย์ใหม่ที่ Zimmer ต้องตีให้แตกแล้วด้วยความช่วยเหลือจาก Rodrigo และ Gabriela จึงเกิดธีมใหม่อย่าง Angelica ที่งัดเอาทุกองค์ประกอบของดนตรีละตินมาเป็นเพลงอันดุเด็ดเผ็ดร้อนและซาบซ่าซึ่งนิยามตัวละครนี้กันได้แซ่บทีเดียว

ไหนๆพูดถึงคนลูกไปแล้วก็ต่อด้วยคนพ่อไปเลยละกันในเพลง Blackbeard กับดนตรีทำนองขึ้นๆลงๆที่มืดมนและอำมหิตสมคาแร็คเตอร์ตัวร้ายของภาคนี้ โดยโมทีฟของธีมดังกล่าวก็อยู่แทบจะทั่วทั้งเพลงแต่ที่โดดขึ้นมาหน่อยก็เห็นจะเป็นในนาทีที่ 1.32 กับคอรัสโคตรคลั่งที่ติดหูกันได้ไม่ยาก ทั้งนี้ในเพลงยังมีโมทีฟน่าสะพรึงจากเพลง The Family Affair (ภาคสอง) มาเสริมความน่าเกรงขามในช่วงท้ายเพลงกันด้วย

เอาล่ะครับ…ผมก็ได้แนะนำธีมใหม่มาพอสมควรกันแล้ว ตอนนี้ก็มาดูที่สกอร์โดยรวมในอัลบั้มกันบ้าง โดยธีมเก่าที่ยังไงก็ขาดไม่ได้นั้นยังอยู่ครบไม่ว่าจะเป็นเมนธีมประจำแฟรนไชส์ (He’s A Pirate ตั้งแต่ภาคแรก) และธีม Jack Sparrow (ภาคสอง) โดยคราวนี้ทั้งสองธีมเหมือนจะถูกนำมาปรับจูนเข้าหากันกว่าเดิมเสียด้วย ซึ่งเพลง Guilty of Being Innocent of Being Jack Sparrow ที่ฟังๆไปยังไม่ค่อยมีอะไรนี้ก็พอทำให้คุณนึกถึงสิ่งที่ผมกำลังอธิบายได้อย่างดีก่อนที่จะใส่กันเต็มที่ในเพลงมันส์บ้าบิ่นกันอย่าง Palm Tree Escape และเพลงปิดสุดคลาสสิค End Credits ซึ่งทั้งคู่ก็ได้เสียงกีตาร์ของ Rodrigo y Gabriela มาร่วมแจมอีกด้วย

อย่างไรก็ดี นอกจากสองธีมหลักๆข้างต้นที่กลับมาแล้ว มันก็ยังมีโมทีฟเก่าๆบางตัวที่ถูกนำมาต่อยอดด้วยซึ่งคุณต้องแปลกใจแน่ๆว่ามันกลับมาได้ยังไง ไม่ว่าจะเป็นโมทีฟกองทัพโจรสลัดจากเพลง Swords Crossed (ภาคแรก) ที่ถูกนำมาปรับใช้เพื่อแนะนำธีมของ Blackbeard แบบลางๆในเพลง Mutiny แล้วไหนจะเสียงร้องโหยหวนจากเพลง At Wit’s End (ภาคสาม) ที่ถูกนำมาร่ายยาวให้หลอนกว่าเก่าด้วยเสียงร้องโซปราโน่ของ Hila Plitmann (ยังจำกันได้ไหม? เธอคนนี้เคยร่วมงานกับ Zimmer ใน The Da Vinci Code มาแล้ว) ในเพลงที่ยาวแต่น่าทึ่งที่สุดของอัลบั้มอย่าง Mermaids โดยส่วนที่ผมเพิ่งกล่าวมาเรียกได้ว่าแทบสะกดอารมณ์ให้ฉงนงงงวยกัน 2/3 ของเพลงก่อนที่จะเริ่มจัดเต็มแบบกระชากใจกันสุดๆสำหรับส่วนที่เหลือและปิดท้ายด้วยธีมของ Blackbeard (แล้วส่วนหลังๆนี้เองที่แอบเผยว่า Geoff Zanelli ได้มาทำ Additional Music ให้เช่นเดียวกับที่ทำใน Clash of the Titans แต่อยู่ตรงว่าท่อนไหนคงเดากันไม่ยาก)

โมทีฟชวนฉงนสุดลึกลับและเสียงร้องของ Hila Plitmann กลับมาอีกครั้งในเพลง On Stranger Tides ที่โดดเด่นด้วยการระเบิดคอรัสในช่วงกลางเพลง อย่างไรก็ตาม เพลงนี้มันช่างน่าผิดหวังตรงที่อะไรต่ออะไรมันจบไวเสียจนผมยังไม่ได้รู้สึกติดใจอะไรเลยนี่สิ… (ฟังจบแล้วอารมณ์ประมาณ “แค่นี้เหรอ?!”)

ก่อนจะปิดรีวิวผมก็ขอกลับมาที่ผลงานของ  Rodrigo y Gabriela อีกนิดกับสามเพลงที่เหลือซึ่งส่วนตัวไม่ได้รู้สึกว่ามันอัศจรรย์ใจเท่า Angela แต่ก็พอฟังเอาเพลินได้ผ่านๆกับธีมและโมทีฟต่างๆที่ถูกนำมาเล่นโดยคู่ดูโอนี้ไม่ว่าจะเป็นเมนธีมใน The Pirate That Should Not Be, โมทีฟชวนฉงนจากเพลง Mermaids ใน South Of Heaven’s Chanting Mermaids และธีมของ Blackbeard และ Angela ใน Angry And Dead Again

โดยสรุปแล้ว Pirates Of The Caribbean: On Strangers Tide ยังเป็นสกอร์ที่ฟังสนุกไม่แพ้ภาคสองภาคแรกและมีเสน่ห์เฉพาะตัวด้วยเสียงกีตาร์ของ Rodrigo y Gabriela อย่างไรก็ตาม มันยังห่างชั้นความเป็นสกอร์ยอดเยี่ยมแห่งปีเช่นภาคสามไปมากด้วยองค์ประกอบทางดนตรีหลายอย่างที่โดนดรอปลงไปเยอะจนแทบรู้สึกว่าความเอพิคโดนลดค่าลงไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งนี้ ในส่วนของอัลบั้ม ผมก็ไม่ได้ปลื้มซักนิดกับบรรดาเพลงรีมิกซ์ที่ไม่รู้จะใส่มาทำไมตั้ง 7 เพลงซึ่งรวมแล้วกินเนื้อ CD ไปเกือบ 30 นาทีโดยไม่จำเป็น สู้เอา 30 นาทีนี้มาเก็บสกอร์จริงๆของหนังยังจะดีกว่าเพราะตอนนี้จาก 40 นาทีที่ได้ฟังมา ผมบอกตามตรงว่าไม่อิ่มอารมณ์เท่าที่ควรเลย! (แต่ในเมื่อเก็บ CD มาสามภาคผมก็คงต้องยอมเก็บภาคนี้อยู่ดี….)

Tracklist

01. Guilty Of Being Innocent Of Being Jack Sparrow (3/5)

02. Angelica (5/5)

03. Mutiny (4/5)

04. The Pirate That Should Not Be (3/5)

05. Mermaids (5/5)

06. South Of Heaven’s Chanting Mermaids (3/5)

07. Palm Tree Escape (4/5)

08. Blackbeard (4/5)

09. Angry And Dead Again (3/5)

10. On Stranger Tides (3/5)

11. End Credits (5/5)

12. Guilty Of Being Innocent Of Being Jack Sparrow (Remixed By DJ Earworm)

13. Angelica (Grant Us Peace Remix) (Remixed By Ki:Theory)

14. The Pirate That Should Not Be (Remixed By Photek)

15. Blackbeard (Remixed By Super Mash Bros & Thieves)

16. South Of Heaven’s Chanting Mermaids (Remixed By Paper Diamond

17. Palm Tree Escape (Remixed By Adam Freeland)

18. Angry And Dead Again (Remixed By Static Revenger)

Final Score (ขอหักคะแนนขัดใจจากเพลงรีมิกซ์กากๆด้วยเล็กน้อย): 7

Leave a comment